ระบบนี้เหมาะสำหรับพี้นที่ที่ไม่มีไฟใช้ หรือไฟฟ้าจากการไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ซึ่งต่างจากระบบออนกริด (On Grid System) ที่ต้องมีระบบไฟฟ้า จากการไฟฟ้าร่วมอยู่ในระบบ ถึงจะทำงานได้ ระบบออฟกริด เริ่มจากท่านต้องวิเคราะห์ คำนวณ หาปริมาณการใช้ไฟแต่ละวันในบ้านของท่าน ( โดยคิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งมักดูได้จากป้ายหรือสติ๊กเกอร์ที่ระบุรายละเอียดสินค้านั้นๆดูจำนวนวัตต์ watt ว่าเท่าไหร่) แล้วคูณกับเวลาหรือชั่วโมงการใช้ไฟในแต่ละวัน โดยมีวิธีคำนวณหาขนาดแผงโซล่าเซลล์ ขนาดแบตเตอรี่ ขนาดคอนโทรลชาร์จ รวมถึงขนาดอินเวอร์เตอร์ ตามลิ้งค์บทความ “วิธีการคำนวณ สูตรคํานวณ แบบง่ายๆ แผงโซล่าเซลล์”
โซล่าเซลล์ระบบออฟกริด (Off Grid System) แบ่งออกตามลักษณะการต่อวงจรได้ 2 แบบ คือ
1. แบบต่อใช้งานโดยไม่ใช้แบตเตอรี่ หรือเรียกภาษาบ้านๆ ว่าต่อตรง
การต่อตรง คือเมื่อได้กระแสไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ (Solar Cell ) แล้ว ก็ต่อไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อใช้งานได้เลย ดังนั้นก็จะใช้ได้เฉพาะเวลาที่มีแสงอาทิตย์เท่านั้น และไม่มีการเก็บประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่มาใช้งาน ทั้งนี้การนำมาต่อใช้งานก็อาจแยกตามเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งาน ได้อีกเป็น 2 ชนิด ข้อดีคือการบำรุงรักษาต่ำ ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ส่วนข้อเสียคือ เราจะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ เมื่อมีแดดเท่านั้น
1.1 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งาน ที่ใช้ไฟ AC
เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งานภายในบ้านเราเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ AC แต่ไฟฟ้าที่ได้จากแผงโซล่าเซลล์ (Solar Cell) เป็นไฟฟ้ากระแสตรง DC ดังนั้น ก่อนนำไปใช้งานจึงต้องนำมาแปลงมาเป็นไฟฟ้ากระแสสลับเสียก่อน โดยนำมาต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่เรียกว่า อินเวอร์เตอร์ ( Inverter ) ซึ่งกำลังไฟฟ้าที่ได้ก็จะมีการสูญเสียจากการแปลงฯ ทำให้ลดทอนประสิทธิภาพการผลิตกระแสไฟฟ้าลงไปบ้าง ยกตัวอย่างเช่น พัดลม แบบที่ใช้ ไฟฟ้า AC
1.2 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งาน ที่ใช้ไฟ DC
โดยนำกระแสไฟฟ้า DC ที่ได้จาก แผงโซล่าเซลล์ Solar Cell มาต่อใช้งานกับอุปกรณ์ของเราใช้งานเลย โดยไม่ต้อง ต่อผ่านอินเวอร์เตอร์ Inverter ซึ่งวิธีการนี้ข้อดีคือการนำไฟฟ้าที่ได้มาใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด เนื่องจากมีการสูญเสียกำลังไฟฟ้าต่ำมาก แต่ข้อเสียคือ อุปกรณ์ ที่ใช้งานส่วนใหญ่จะใช้ไฟ AC ดังนั้นจึงต้องเลือกใช้งานอุปกรณ์ให้เหมะสม เช่น มอเตอร์ปั๊มน้ำที่ใช้ไฟ DC โดยปั้มน้ำใส่ถังสูงเก็บไว้ตอนกลางวันทั้งวัน และเราสามารถใช้น้ำได้ตอนกลางคืน เหมาะสำหรับบ้านสวน
2. แบบต่อใช้งานโดยใช้ไฟฟ้าผ่านแบตเตอรี่
วิธีนี้คือการนำกระแสไฟฟ้า DC ที่ได้จากแผงโซล่าเซลล์ มาเก็บไว้ในแบตเตอรี่ แล้วจึงนำไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่ได้มาใช้งาน ซึ่งก็สามารถเลือกว่าจะนำจ่ายไฟ ให้กับอุปกรณ์ ที่ใช้ไฟ AC หรือ อุปกรณ์ที่ใช้ไฟ DC ทั้งนี้ข้อดีของการที่มีแบตเตอรี่คือสามารถเก็บประจุไฟฟ้าไว้ใช้ไฟฟ้าในเวลากลางคืนได้ โดยอาจแยกตามเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งาน ได้เป็น 2 ชนิด
2.1 นำกระแสไฟที่ได้จากแผงโซล่าเซลล์ Solar Cell มาชาร์จแบตเตอรี่ แล้วนำไฟจากแบตเตอรี่ แปลงเป็นไฟ AC ต่อไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งาน (Load) ใช้ไฟ AC
เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งานภายในบ้านเราเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ AC แต่ไฟฟ้าที่ได้จากแผงโซล่าเซลล์ Solar Cell เป็นไฟฟ้ากระแสตรง DC ดังนั้น ก่อนนำไปใช้งานจึงต้องนำมาแปลงมาเป็นไฟฟ้ากระแสสลับเสียก่อน โดยนำมาต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่เรียกว่า อินเวอร์เตอร์ ( Inverter ) ซึ่งกำลังไฟฟ้าที่ได้ก็จะมีการสูญเสียจากการแปลงฯ ไฟฟ้าลงไปบ้าง
2.2 นำกระแสไฟที่ได้จากแผงโซล่าเซลล์ Solar Cell มาชาร์จแบตเตอรี่ แล้วนำไฟจากแบตเตอรี่ ต่อไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งาน (Load) ใช้ไฟ DC
ซึ่งวิธีการนี้ข้อดี การนำไฟฟ้าที่ได้มาใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด เนื่องจากมีการสูญเสียกำลังไฟฟ้าต่ำมาก แต่ข้อเสียคือ เครื่องใช้ไฟฟ้า จะต้องเลือกใช้แบบใช้ไฟ DC ให้เหมะสม เช่น หลอดไฟ LED แบบ DC ,มอเตอร์ , ปั๊มน้ำ, พัดลม DC , ทีวี DC เป็นต้น
สรุปคือ ระบบออฟกริด จะไม่ต่อพ่วงกับไฟฟ้าที่มาจากการไฟฟ้า หลักสำคัญในการออกแบบระบบนี้ คือการประมาณความต้องการการใช้ไฟฟ้า เพื่อให้ออกแบบมาได้คุ้มค่าและประหยัดต้นทุนได้มากที่สุด เช่น ใช้หลอดไฟ 10W จำนวน 5 ดวง , TV 300W จำนวน 1 เครื่อง และอื่นๆ เช่น ตู้เย็น เครื่องปั้มน้ำ พัดลม ที่ชาร์ตแบตมือถือ ฯลฯ โดยทั้งหมดต้องการให้เปิด ใช้งานกลางคืนได้ 6 ชั่วโมง นี่คือโจทย์ ที่นำมาออกแบบ เลือกใช้ ขนาดของแผงโซล่าเซลล์ , อุปกรณ์ Chagrer , อุปกรณ์ Inverter และ ขนาดของ Battery ที่นำมาใช้ ซึ่งสุดท้ายจะออกมาเป็น ยอดค่าใช้จ่ายการลงทุน และจุดคุ้มทุน ในการลงทุน (ซึ่งระยะยาว คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ทุกกรณีจริงๆ)